การทำนายวันสิ้นโลกของยุคก่อน

ในปี1935ได้มีผู้นำนิกายคนหนึ่งได้เรียกประชุมนิกายกับคนอื่นๆเพื่อที่จะได้เล่าถึงเหตุการณ์การตื่นเต้นที่เขาได้ไปเจอมาเขาได้บอกว่าเขาได้ไปสนิทสนมกับพระผู้เป็นเจ้าเลยและในระหว่างการแชทนั้นเขาก็ตีความได้ว่าพระคริสต์จะทรงกลับมาในอีก6ปีหลังจากนี้

ซึ่งมันก็เป็นปี1891แต่ในปัจจุบันก็เข้าปี2020แล้วก็น่าจะรู้แล้วว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นจจากนั้นเรามาดูเรื่องที่มันเป็นวิทยาศาสตร์กันบ้าง

ในปี1881ได้มีนักดาราศาสตร์คนหนึ่งเขาก็ได้ค้นพบว่าดาวห่างส่วนใหญ่มันจะมีก๊าซชนิดหนึ่งที่เรียกว่าก๊าซไซยาไนด์โนเจนอยู่มันก็จะเป็นสารที่มีพิษที่สามารถฆ่าคนได้เลยทีเดียว

แต่ทว่าเรื่องนี้มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าสนใจอะไรมากนักจนมาถึงในปี1910ก็ได้มีข่าวว่าจะมีการบินของดาวหางดวงหนึ่งชื่อว่าฮัลเลย์ตอนนี้ก็เลยเกิดมีคนสนใจเรื่องบทวิจัยเรื่องนู้นขึ้นมาแล้วก็ได้บอกว่าดาวหางนั้นมันจะมีก๊าซพิษพอมันผ่านมาใกล้โลกแล้วก๊าซพิษมันก็อาจจะมาสู่โลกด้วยหรือว่ามันผ่านโลกมันจะเผ่าทำให้มนุษย์ตายไปต่างๆนาๆก็โว้ยวายกันไปหมด

โดยมีหนังสือหน้าหนึ่งจากนิวยอร์กก็ได้โพสข่าวเรื่องนี้ลงแต่สุดท้ายแล้วฮีโร่ก็ได้ออกมาแก้สถานการณ์ชนิดนี้ก็คือนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำที่เขาได้บอกว่าไม่เป็นไรดาวหางมันไม่ได้ทำอะไรเราหรอกจึงทำให้พวกเขาได้หยุดการตื่นตัวในครั้งนี้ได้

นอกจากนี้เรื่องของดาวหางมันยังไม่จบแต่เพียงแค่นี้คราวนี้มันก็ยังได้มีเรื่องของยูเอฟโอเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยคือในช่วงของยุค70ก็จะมีดาวหางอีกดาวหนึ่งได้บินเข้ามาอีกชื่อว่าดาวหางเฮโบ

ซึ่งหลังจากที่ได้ขึ้นปรากฏดาวหางนี้ขึ้นมาก็ได้มีข่าวลืออกมาว่าดาวหางที่มันได้พุ่งมานี้มันมีมนุษย์ต่างดาวติดมาด้วยทางนาซาได้ปกปิดพวกเราเอาไว้แต่ถึงแม้นาซาจะแก้ตัวว่าไม่ได้ประชาชนเขาก็ได้เชื่อกันไปแล้วและมันก็ไม่มีอะไรที่จะมาหยุดความมโนของทุกคนได้หรอกและในตอนนั้นเองมันก็ได้มีข่าวได้แพร่กระจายไปทางวิทยุแล้วก็สื่อต่างๆมากมายๆว่ามนุษย์ต่างดาวที่นาซ่าปกปิดเอาไว้

เนื่องจากนี้มันก็เลยก่อให้เกิดเป็นลัทธิใหม่ขึ้นมาที่มีชื่อว่าลัทธิยูเอฟโอโดยในลัทธินี้เขาก็จะเชื่อว่าในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาประตูสวรรค์ได้เปิดออกแล้วและวันที่สิ้นมันก็กำลังจะใกล้เข้ามาแล้วพวกเขาก็ได้ทำนายเอาไว้ว่ามันจะเกิดขึ้นภายในปี1997

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  v9bet