อุโมงค์ลึกลับในยุคชาวแอซเท็ก

ในตลอดปี2019ที่ผ่านมาก็ได้มีการค้นพบสิ่งต่างๆมากมายที่ทำให้เราได้เรียนรู้และได้เข้าใจหลายๆสิ่งหลายๆอย่างเพิ่มมากขึ้นนอกเหนือจากการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ในปีที่ผ่านมาแล้วก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งปีที่ได้มีการค้นพบทางโบราณคดีอีกมากมายอยู่หลายอย่าง ซึ่งในการเรียนรู้ทางโบราณคดีเหล่านี้

นอกจากจะเป็นการไขปริศนาและประวัติศาสตร์ต่างๆที่พวกเราอาจจะยังไม่เข้าใจหรือเพื่อยืนยันความเข้าใจที่ได้มีมาก่อนหน้านี้สิ่งเหล่านี้มันก็ยังได้เป็นกุจแกที่สำคัญในการชี้ทางให้กับมนุษยชาติว่าพวกเราทำควรที่จะก้าวหน้าต่อไปและเรื่องราวต่อไปนี้มันคือเหตุการณ์ที่ได้มีการค้นพบทางโบราณคดีในปี2019ที่ผ่านมาอุโมงค์ลับ

ในบรรดาสิ่งก่อสร้างที่โลกลืมซึ่งได้มาค้นพบกันใหม่อีกครั้งในปีนี้ที่ที่โดดเด่นและมีความน่าทึ่งมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งก็คงจะหนีไม่พ้นอุโมงค์ลับในยุคอารยธรรมแอซเท็กที่ได้มีความเก่าแก่มากที่สุดถึง600ปี โดยคนงานในเมืองที่ได้อยู่ไกลกับเมืองหลวงของเม็กซิโกได้เป็นผู้ขุดค้นพบในขณะที่กำลังจะเตรียมพื้นถนนเพื่อก่อสร้างป้ายจอดรถประจำทางและในการตรวจสอบของนักโบราณคดีก็ยังได้พบอีกว่าอุโมงค์นี้

มันน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของระบบอุโมงค์การระบายน้ำที่สร้างขึ้นโดยจะมีสัญลักษณ์ของเทพที่ได้เป็นเทพแห่งสายฝนสายฟ้าและความอุดมสมบูรณ์ที่ได้ปรากฎอยู่บนรูปสลักหินและภาพวาดบนฝาผนังอุโมงค์ด้วย ซึ่งชาวแอซเท็กนั้นได้ขึ้นชื่อในเรื่องทางด้านวิศวะกรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการชนลประทานการบริหารจัดการน้ำและการสร้างเกาะลอยที่มีขาดใหญ่

อยู่กลางทะเลสาปเชื่อกันว่าอุโมงค์ระบายน้ำที่มีการค้นพบล่าสุดนี้ได้สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิแอซเท็กในช่วงกลางศตวรรษที่15ซึ่งได้เป็นยุคที่จักรวรรดิแอซเท็กได้มีการปฏิรูในหลายๆด้านจนได้มีความมั่งคั่งและเข้มแข็งยิ่งกว่าเดิมน้ำในเขื่อนแห่งวังศ์โบราณโพล่ขึ้นที่อีรักความแห่งแร้งผิดปกติในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปีนี้

จึงทำให้ระดับน้ำในเขื่อนมูซูนทางตอนเหนือของอีรักได้ลดลงเป็นอย่างมากจนได้เห็นซากของวังโบราณแห่งหนึ่งที่มันได้จมอยู่ใต้น้ำมานานอยู่หลายสิบปีทีมนักโบราณคดีของอีรักและเยอรมันจึงได้ใช้โอกาสนี้ได้เข้าไปทำการขุดค้นสำรวจจนพบว่าอาจจะเป็นซากของเมืองโบราณซาคิคูส่วนหนึ่งของอาณาจักรมิตาณีของชาวฮิไทซึ่งได้แพรอิทธิพลมาตั้งแต่ตุรกีไปจนถึงซีเรียและอีรักตอนเหนือ

 

ขอขอบคุณที่ให้การสนับสนุนโดย  เว็บพนัน บาคาร่า