การปฏิวัติของฝรั่งเศส

เมื่อได้พูดถึงการปฏิวัติฝรั่งเศสคุณจะนึกถึงอะไรบ้าง ซึ่งหลายคนก็อาจจะเห็นภาพ กีโยติน เคร่องประหารที่ได้ตั้งใจผลิตขึ้นมาเพื่อความเสมอภาคหรือ พระนางมารี อังตัวเน็ต ราชินีของพระเจ้าหลุยส์ที่16ที่เค้าได้เม้ามอยกันว่ามีประโยคที่โด่งดังตลอดกาลของนางก็คือ “Let them eat cake” หรือไม่มีขนมปังก็ทำไมไม่กินเค้กกันล่ะ

ซึ่งมันก็ไม่ได้มีหลักฐานใดๆตรงไหนเลยที่จะบ่งบอกว่านางพูดแบบนั้นจริงๆหรือบางคนก็อาจจะนึกถึง Do You Hear The People Sing เพลงดังจากละคร เรื่องLes Miserables ซึ่งอันที่จริงเหตุการณ์ที่ละครพูดถึงได้เป็นการลุกฮือขึ้นต่อต้านรัฐบาลที่ได้เกิดขึ้นในภายหลังการปฏิวัติฝรั่งเศสถึง43ปีเลยทั้งนี้ยังได้มีการเข้าใจผิดกันเยอะว่าการปฏิวัติของฝรั่งเศสในปี ค.ศ.1789 ที่ได้มีการล้มราช วงศ์บูร์บอง

แล้วฝรั่งเศสก็ปกครองในระบอบ สาธารณรัฐมาจนถึงปัจจุบันอันที่จริงแล้วหลังการปฏิวัติฝรั่งเศสปี1789 ทางฝรั่งเศสก็เข้าๆออกๆระหว่างระบอมสมบูรณาญาสิทธิราชย์ระบอบเผด็จการทหารและระบอบสาธารณรัฐอยู่หลายรอบกว่าที่จะเป็นสาธารณรัฐ โดยสมบูรณ์และมั่นคงก็82ปีหลังการปฏิวัติฝรั่งเศสอันโด่งดังที่เรารู้จักกัน

วันนี้เราจะมาดูกันว่าหลังจากการปฏิวัติฝรั่งเศสที่เริ่มจากการบุกถล่มคุกบาสตีลล์ ในวันที่14กรกฎาคม 1789 แล้วเรื่องราวใน82ปีต่อมาเกิดอะไรขึ้นบ้างการปฏิวัติของฝรั่งเศสก็ได้เริ่มขึ้นมาอย่างเป็นทางการ ในวันที่14กรกฎาคม 1789 โดยได้ใช้หมุดหมายการถล่มคุกบาสตีลล์ของประชาชนชาวปารีสเป็นสัญลักษณ์แต่ความไม่พอใจต่อกษัตริย์ขุนนางและระบบการปกครองนั้นได้คุกรุ่นมาก่อนหน้านั้นพอสมควรแล้วทั้งนี้เรื่องที่ สำคัญที่สุดคือเรื่องของปากท้อง เศรษฐกิจ

และ การเก็บภาษีที่ไม่เป็นธรรมเศรษฐกิจของฝรั่งเศสเริ่มตกต่ำมาตั้งแต่รัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่15และที่ปรึกษาทางการคลังของพระเจ้าหลุยส์ที่15โด่งดังมาในความสามารถที่จะเก็บภาษีได้แบบมีประสิทธิภาพสุดๆภาษีไม่มีกระเด็นกลุ่มคนที่ถูกเก็บภาษียิบย่อยและเก็บแบบดุมากที่สุดก็คือประชาชนชั้นล้าง ชาวนาและผู้ใช้แรงงานทั้งหลาย

ส่วนเหล่าฐานันดรที่1กคือ ศาสนจักรและฐานันดรที่2คือขุนนางแทบไม่ต้องเสียภาษีกันเลยนอกจากนี้ชนชั้นใหม่คือชาวบ้านที่ค้าขายจนเป็นคนเป็นเศรษฐีใหม่หรือนิวมันนี่ที่เรียกว่าพวก บูร์ชวาส์ก็มักจะหาทางซิกแซ็กหลีกเลี่ยงภาษีได้เหมือนกัน สรุปว่าชาวบ้านชาวนาฝรั่งเศสทำงานเลี้ยงเจ้าและขุนนางตั้งแต่เกิดตายนั่นล่ะพอเข้าพระเจ้ารัชสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่16สถานการณ์ก็สุกงอมพอดี

เพราะนอกจากจะเสียภาษีกันจนแทบไม่มีกินแล้วยังเกิดภัยธรรมชาติรุนแรงติดต่อกันหลายปีข้าวสาลีที่ใช้ทำขนมปังก็ขาดแคลนเมื่อไม่มีขนมปังและประชาชนโกรธแค้นก็เลยเป็นที่มาของ “ไม่มีขนมปังก็กินเค้กสิ”

 

สนับสนุนโดย  entaplayทางเข้า