ตำนานความรักของโกโบริและอังศุมาลิน 

 

           ตำนานความรักของโกโบริและอังศุมาลินนั้นเป็นตำนานความรักที่เหมือนกับเทพนิยายซึ่งหลายคนนั้นเปรียบเทียบเกี่ยวกับเรื่องของนิทานเจ้าหญิงกับชายแดนเมื่อวานเรื่องราวความรักในครั้งนี้เป็นการแต่งแต้มเรื่องราวที่มาจากนามปากกาของทมยันตีโดยเป็นเรื่องราวความรักของหญิงสาวชาวไทยกับนายทหารของประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นั่นเองโดยสถานที่เกิดเหตุนั้นคือประเทศไทยอยู่ตรงบริเวณสถานีรถไฟธนบุรีกับสถานีรถไฟ

บางกอกน้อยซึ่งตำนานความรักของทั้งโกโบริอังศุมาลินนี้เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักกันดีเพราะมีการถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์และละครหลายต่อหลายครั้งด้วยกันปัจจุบันนี้ก็ยังมีผู้จัดนำมาสร้างเป็นละครและภาพยนตร์ให้เราเห็นกันอยู่อย่างหนึ่งเมืองสำหรับตำนานความรักของทั้งคู่นั้นเกิดขึ้นเมื่อมีสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดขึ้น

และประเทศญี่ปุ่นได้ใช้ประเทศไทยในการเป็นภาพมีทหารญี่ปุ่นเดินเพ่นพ่านอยู่ในเมืองไทยมากมายส่วนประเทศไทยเองนั้นก็มีการเข้าร่วมกับประเทศญี่ปุ่นแต่ก็ยังมีคนบางกลุ่มที่เรียกว่ากลุ่มใต้ดินนั้นเข้าร่วมกับฝ่ายตรงข้ามก็คือประเทศอังกฤษนั่นเองซึ่งนายทหารโกโบรินั้นเป็นหัวหน้านายทหารและได้มาพบรักกับหญิงสาวชาวไทยที่ชื่อว่าอังศุมาลินโดยในครั้งแรกนั้นอังศุมาลินนั้นไม่ได้เกิดความรักต่อโกโบริเลยเนื่องจากเธอนั้นมีคนรักอยู่แล้วซึ่งคนรักของเธอนั้นต้องไปเป็นทหาร

เพราะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 นี้เองจึงทำให้อังศุมาลินนั้นเกลียดทหารญี่ปุ่นเป็นอย่างมากอย่างไรก็ตามทั้งโกโบริอังศุมาลินจำเป็นต้องแต่งงานกันด้วยเหตุผลทางการเมืองแล้วเมื่อแต่งงานไปแล้วชายหนุ่มญี่ปุ่นที่ชื่อว่าโกโบริก็ทำทุกวิถีทางที่จะพยายามเอาชนะใจอังศุมาลินหญิงสาวที่ตนเองรักส่วนอังศุมาลินนั้นก็แพ้ความดีของโกโบริเธอก็รักก็เช่นเดียวกันแต่ในขณะเดียวกันเธอก็ไม่สามารถที่จะยอมรับความเป็นจริงได้ว่าท้ายที่สุดแล้วเธอนั้นรักโกโบริทำให้เธอและคนนั้นไม่สามารถที่จะอยู่ด้วยกัน

อย่างมีความสุขได้เรื่องราวดำเนินไปจนถึงเมื่อมีเหตุการณ์ที่ประเทศอังกฤษต้องมาทิ้งระเบิดที่บริเวณสถานีรถไฟบางกอกน้อยซึ่งเป็นฐานที่ตั้งของกองกำลังทหารของโกโบริและโกโบริก็ถูกระเบิดจากเหตุการณ์ทิ้งระเบิดที่สถานีรถไฟบางกอกน้อยในครั้งนั้นซึ่งอังศุมาลินนั้นทราบเรื่องราวในการทิ้งระเบิดในครั้งนี้จึงวิ่งมาหาโกโบริที่สถานีรถไฟบางกอกน้อยและคนทั้งคู่ก็สารภาพความรักกันโดยปรินั้นบอกกับอังศุมาลินว่าเขาจะไปรอหญิงสาวที่ทางช้างเผือกซึ่งอังสุมารินทร์ก็รับปากว่าหากเธอตายไปเธอจะไปหาที่ทางช้างเผือกและตำนานความรักของคนทั้งคู่ก็เป็นที่ซาบซึ้งใจของคนดูนับตั้งแต่นั้นเรื่อยมา

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  เว็บพนัน ต่างประเทศ

ตำนานความรักของแม่นาคพระโขนง

      เรื่องราวตำนานความรักของแม่นาคพระโขนงนั้นเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 ซึ่งตรงกับสมัยของกรุงรัตนโกสินทร์โดยเรื่องราวที่เล่าขานกันมานี้ชาวบ้านยืนยันปากต่อปากว่าเป็นเรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นจริงของชาวบ้านพระโขนงซึ่งเราสามารถที่จะไปเห็นศาลของแม่นาคได้ที่วัดมหาบุศย์เขตพระโขนงนั่นเองและทุกวันนี้ชาวบ้านก็ยังพากันไปเคารพสักการะและขอพรแม่นาค

พระโขนงกันไม่ขาดสายโดยส่วนใหญ่แล้วจะขอพรในเรื่องของการไม่ให้ลูกหลานนั้นจับได้ไปเกณฑ์ทหารรวมถึงขอพรในเรื่องของความรักด้วยซึ่งส่วนใหญ่ก็จะสุขสมหวังสำหรับเรื่องราวความรักของแม่นาคพระโขนงนั้นเป็นที่ร่ำลือกันทั่วพระโขนงเลยทีเดียวเพราะว่าเป็นความรักมั่นของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเธอมีรักมากต่อสามีของเธอ

โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อหญิงสาวที่ชื่อนาคได้แต่งงานกับสามีที่ชื่อพี่มากแต่หลังจากแต่งงานอยู่กินกันไม่ได้นานบ้านเมืองเกิดศึกสงครามทำให้พี่มากต้องไปเป็นทหารเพื่อออกรบในสงครามซึ่งระหว่างที่พี่มากไปออกรบนั้นเองแม่นาคก็เกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาและเนื่องจากศึกสงครามนั้นติดกันอย่างยาวนานทำให้แม่นากนั้นเฝ้ารอพี่มากอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันด้วยความรักและความคิดถึงโดยเธอมักจะมานั่งรอพี่มากที่ท่าน้ำอยู่เสมอตรงหน้าบริเวณบ้านของเธอเองจนในที่สุดเธอก็ใกล้คลอดลูก

และในคืนหนึ่งเธอก็เจ็บท้องและคลอดลูกแต่เนื่องจากเด็กในท้องนั้นไม่ยอมกลับหัวทำให้เธอไม่สามารถคลอดลูกออกมาได้เนื่องจากสมัยนั้นวิวัฒนาการทางการแพทย์ยังไม่เหมือนในสมัยนี้ที่สามารถผ่าท้องคลอดได้ทำให้แม่นากนั้นเสียชีวิตตายทั้งกลมเนื่องจากเสียเลือดมากนั่นเองและตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาชาวบ้านมักจะได้ยินเสียงหญิงสาวคนหนึ่งร้องไห้คร่ำครวญ

เรียกพี่มากในช่วงเวลาค่ำคืนจนเป็นที่หวาดกลัวของชาวบ้านกันเป็นอย่างมากและเมื่อพี่มากกลับมาจากการเป็นทหารก็ปรากฏว่าวิญญาณของแม่นาคนั้นมาคอยรอรับพี่มากที่ท่าน้ำโดยที่พี่มากไม่รู้เลยว่าแม่นาคนั้นตายแล้วซึ่งพวกเขาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันระยะหนึ่งชาวบ้านก็ได้มาบอกกล่าวเรื่องราวให้พี่มากฟังว่าแม่นากนั้นไปแล้ว

จนในที่สุดพี่มากนั้นก็หนีมาที่วัดเพื่อหวังว่าวิญญาณของแม่นาคนั้นจะได้ไปผุดไปเกิดแต่แม่นาคนั้นยังเกิดความอะไรรักในตัวพี่มากจึงได้ตามมาอาละวาดที่วัดแต่แล้วในที่สุดก็มีพระธุดงค์รูปหนึ่งมาช่วยกันสะกดวิญญาณแม่นาคเพื่อที่แม่นากนั้นจะได้สงบและไปผุดไปเกิดนับตั้งแต่นั้นมาเรื่องราวความรักของแม่นาคพระโขนง เป็นที่เล่าขานตั้งแต่นั้นสืบต่อกันมา

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  เว็บพนัน

แฟชั่นด้านเสื้อผ้า

แฟชั่นด้านเสื้อผ้าเป็นวงการแฟชั่นที่ได้รับความนิยมจากคนในทุกยุคทุกสมัยอย่างดีมาเสมอมา เพราะเสื้อผ้าเป็นสิ่งที่จพเป็นและเป็นปัจจัย4ที่มนุษย์ต้องมีการใช้นุ่งห่มในชีวิตประจำวันนั่นเอง ทำให้ไม่ว่าในยุคสมัยไหนวงการแฟชั่นก็ยังคงมีการเจริญเติบโตขึ้นไปเรื่อยๆนั่นเอง และในยุคนี้ถือว่าวงการแฟชั่นเป็นวงการที่มีคนนั้นเข้าถึงดได้ง่ายมากขึ้น เพราะด้วยแฟชั่นที่มีการเจริญเติบโตและมีการนำแฟชั่นในยุคก่อนหน้านี้นั้นมาผสมผสานให้เกิดความแปลกใหม่เป็นแฟชั่นที่ยังคงมีกบิ่นไอของแฟชั่นในยุคเก่าแต่ก็มีความทันสมัยสามารถสวมใส่เหมาะกับสภาพแวดล้อมในปัจจุบันด้วยนั่นเอง

แฟชั่นทางด้านเสื้อผ้านั้นยังคงมีการพัฒนาและออกแบบให้มีความแปลกใหม่อย่างต่อเนื่องและปัจจุบันผู้คนหันมาสนใจด้านวงการแฟชั่นแลการแต่งตัวที่มากขึ้นกว่าในยุคก่อนๆ ทำให้ไม่ว่าจะมีการทำเสื้อผ้าออกมามากเท่าไหร่ล้วนก็ได้รับความสนใจทั้งคนในวงการแฟชั่นและนอกวงการแฟชั่นอย่างมาก โดยในยุคก่อนนั้นแฟชั่นมักจะเป็นที่นิยมและรู้จักกันเพียงคนในวงการแฟชั่นเท่านั้น สำหรับคนทั่วไปก็อาจจะไม่สามารถเข้าถึงแฟชั่นได้ ทำให้สินค้าที่เป็นแฟชั่นรวมถึงเสื้อผ้าในยุคนั้นจึงมีราคาแพง เพราะเป็นการออกแบบและขายเฉพาะกลุ่มคนเท่านั้น แต่ในปัจจุบันเสื้อผ้าด้านแฟชั่นมักจะมีมากมายหลากรายราคาและคุณภาพให้เลือก ซึ่งราคากับคุณภาพของเสื้อผ้านั้นก็จะเหมาะสมและสอดคล้องกันด้วย

ด้วยในปัจจุบันเสื้อผ้านั้นมีราคาที่สามารถเลือกได้และด้วยกำลังในการซื้อที่มีมากกว่าในยุคก่อนหน้า ทำให้การออกแบบและความนิยมด้านแฟชั่นนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอยู่เสมอและถึงแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอยู่เสมอนั้นวงการแฟชั่นก็ยังคงเป็นที่นิมและรับความสนใจจากคนทั่วไปจำนวนมากเลยทีเดียว และด้วยที่ในปัจจุบันนั้นวงการแฟชั่นเป็นที่รู้จักมากขึ้นและคนก็หันมาสนใจวงการแฟชั่นมากขึ้น ทำให้แบรนด์ดังต่างๆที่มีการเกิดขึ้นตั้งแต่นยุคก่อนนั้นมีการพัฒนาและออกแบบสินค้า

ให้มีความแปลกใหม่และให้เป็นที่น่าสนใจกับคนในยุคปัจจุบันด้วยและถึงแม้ราคาของแฟชั่นที่เป็นแบรนดืดังในอดีตนั้นจะมีราครที่สูงขึ้นอยู่เสมอ แต่คนในยุคนี้นั้นก็สามารถที่จะควักเงินจ่ายได้ เพื่อให้ได้แฟชั่นที่มีความแปลกใมห่และนำสมัยอยู่เสมอ

วงการแฟชั่นด้านเสื้อผ้านั้นยิ่งได้รับความนิยมมากขึ้นเพราะนอกจากจะมีการใส่จากดารานางแบบแล้ว ในปัจจุบันก็ยังมีวงการเซเลปไอดอลต่างๆมากมาย เมื่อพวกเขาเหล่านี้ใส่เสื้อผ้าแฟชั่นที่มีการออหแบบใหม่ๆมาก็จะเป็นสิ่งที่สามารถทำให้เสื้อผ้าแฟชั่นใหม่นั้นได้รับความนิยมและสามารถตีตลาดได้

 

สนับสนุนโดย  bk8

บริษัทฮอนด้าสุดยอดนวัตกรรมครั้งแรกของโลกมาเปิดตัวที่ไทยด้วยการเปิดตัว ซีที125 

           สำหรับใครก็ตามที่ชอบรถมอเตอร์ไซค์หรือรถจักรยานยนต์นั้นต้องไม่ควรพลาดตลาดรถมอเตอร์ไซค์ของยี่ห้อฮอนด้าซึ่งจะนำมาเปิดตัวที่เมืองไทยครั้งแรกด้วยการนำรถมอเตอร์ไซค์รุ่น ซีที125  ออกมาแสดงให้ประชาชนคนไทยได้เห็นโดยราคาจะเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณแปดหมื่นสีพันเก้าร้อยบาท  เจอแต่ว่าตอนนี้อยู่ตลาดจักรยานยนต์ของไทยนั้นกำลังเป็นยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาเป็นอย่างมากส่วนใหญ่เริ่มนิยมหันมาขี่รถมอเตอร์ไซค์กันเยอะมากขึ้น

โดยมีการตรวจสอบสถิติการเจริญเติบโตของการจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ออกมาแล้วว่าในช่วงประมาณ 4 เดือนแรกตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนเมษายนนี้สำหรับข้อมูลของปีพ.ศ 2553 พบว่าการซื้อขายรถมอเตอร์ไซค์งานมีการเจริญเติบโตมากถึง 20 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียวหากเมื่อเทียบกับการซื้อขายรถยนต์

ซึ่งการซื้อขายรถยนต์นั้นเรียกว่าแทบไม่มีการเจริญเติบโตอะไรเลยนั้นเป็นที่นิยมมากในขณะนี้ก็คือเนื่องจากว่าหลายคนนั้นมักจะชอบการไปท่องเที่ยวแบบ Outdoor แล้วการขี่มอเตอร์ไซค์ไปนั้นก็เป็นการเดินทางที่สะดวกและไม่ยุ่งยากสามารถไปได้ทุกที่ถึงแม้ว่าถนนเส้นนั้นจะมีขนาดเล็กก็ตามดังนั้นทำให้สัดส่วนการซื้อขายรถมอเตอร์ไซค์นั้นมีเพิ่มมากขึ้นจากเดิมที่ผ่านมาและแน่นอนว่าในอนาคตนั้นก็ยังคงมีแนวโน้มว่าการซื้อรถมอเตอร์ไซค์นั้นจะมีแนวโน้มมากขึ้นไปอีก

เนื่องจากว่าราคาของรถมอเตอร์ไซค์นั้นหากเปรียบเทียบกับราคารถยนต์แล้วแตกต่างกันอย่างมากทุกคนสามารถที่จะนำเงินที่มีอยู่มาผ่อนจ่ายซื้อรถมอเตอร์ไซค์ได้แต่ในขณะเดียวกันเงินที่มีอยู่นั้นจะไม่เพียงพอต่อการนำไปซื้อรถยนต์เพราะการซื้อรถยนต์นั้นนอกจากที่เราจะต้องเสียเงินค่าซื้อรถยนต์มาแล้วยังจะต้องเสียเงินในการเติมน้ำมันแต่ละครั้งรวมถึงหากต้องขึ้นทางด่วนก็ต้องเสียค่าผ่านทางด่วนด้วยในขณะที่มอเตอร์ไซค์นั้นหากเปรียบเทียบกันแล้วราคาซื้อรถมอเตอร์ไซค์

ถูกกว่าการเติมน้ำมันก็จะน้อยกว่ารวมถึงการเดินทางก็สะดวกรวดเร็วได้มากกว่าดังนั้นสิ่งนี้เองจึงเป็นสิ่งที่ทำให้เศรษฐกิจของมอเตอร์ไซค์นั้นยังคงไม่ลดตัวลงและยังมีแนวโน้มว่าคนจะสนใจซื้อรถมอเตอร์ไซค์กันมากขึ้นทำให้ทาง Honda นั้นเลยเห็นความสำคัญในส่วนนี้จึงได้มีการจัด Honda รุ่นใหม่ออกมาเป็น New Honda ซีที125   ซึ่งรถมอเตอร์ไซค์ Honda นี้ได้รับความนิยมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศโดยเฉพาะในญี่ปุ่นและอเมริการวมถึงออสเตรเลีย   

          สำหรับ New Honda ซีที125   นั้นเป็นการเพิ่มรูปลักษณ์ใหม่ให้กับนวตกรรมยานยนต์ ดังนั้น ทาง Honda จึงมั่นใจในสินค้าของตัวเองว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายให้ได้แน่นอน 

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนันออนไลน์

ตำนานหอในหญิงของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เขตกำแพงแสน

             สำหรับเรื่องเล่าที่เป็นตำนานเล่าขานจากรุ่นพี่รุ่นน้องของเด็กมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เขตกำแพงแสนนั้นเรื่องมีอยู่ว่า หอในหญิง ของที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้เดิมทีนั้นเคยเป็นโรงพยาบาลมาก่อนซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และด้วยความที่สถานที่แห่งนี้เคยเป็นโรงพยาบาลซึ่งเกิดขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงทำให้มีเหล่าดวงวิญญาณมากมายที่เคยตายที่โรงพยาบาลแห่งนี้

มีความเฮี้ยน ซึ่งความหลอนที่นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งนี้มักจะพบเจอกันก็คือในช่วงเวลากลางคืนนั้นนักศึกษาจะได้ยินเสียงคล้ายกับคนเดินบริเวณโถงทางเดินโดยจะได้ยินเสียงคล้ายกับคนเดินลากโซ่ตรวนเดินผ่านไปมา และในบางคืนนักศึกษาจะได้ยินเสียงคนอาบน้ำในห้องน้ำหญิงแล้วเมื่อพากันไปดูก็จะไม่พบว่ามีใครอยู่ในห้องน้ำเลยและ ที่สำคัญพื้นห้องน้ำนั้นก็แห้งสนิทไม่มีร่องรอยของคนที่จะมาอาบน้ำในห้องน้ำนี้มาก่อนเลยอีกต่างหาก

และความน่ากลัวยังไม่หมดที่หอในหญิงของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แห่งนี้จะมีตึกอยู่ 2 ตึกที่เป็นตึกขนาดใหญ่โดยมีการเล่าขานกันว่าจะมีอยู่ตึก 1 ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นก่อนที่จะมีการปิดเทอม ได้มีนักศึกษาสาวคนหนึ่งเป็นไข้ทับฤดูแล้วเสียชีวิตภายในตึกดังกล่าวหลังจากที่มีการเปิดเทอมจึงมีคนมาพบศพนักศึกษาคน

ดังกล่าวว่าเสียชีวิตอยู่ที่หอพักของตนเองและหลังจากนั้นเป็นต้นมานักศึกษาหลายคนมักจะเห็นวิญญาณของเด็กนักศึกษาหญิงคนนั้นมาวนเวียนอยู่ในหอพักของตนเองรวมถึงยังเคยเห็นว่านักศึกษาหญิงคนดังกล่าวยังออกมานั่งซักผ้าอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำอย่างที่เธอเคยทำเป็นประจำตอนที่เธอยังมีชีวิตอยู่ เรื่องเล่าตำนานผีในหอพักหญิงนี้

มีการบอกเล่าต่อๆกันมาจากรุ่นสู่รุ่นจากรุ่นพี่รุ่นน้องสร้างความหวาดกลัวให้กับนักศึกษามหาวิทยาลัยเป็นอย่างมากแต่อย่างไรก็ตามในปัจจุบันนี้นักศึกษาส่วนใหญ่ที่พักอยู่ในหอพักนี้ต่างก็ไม่เคยพบเห็นวิญญาณของผีตัวไหนกันแล้วอาจจะเป็นแค่เพียงการสร้างข่าวลือเพื่อเป็นการหลอกนักศึกษารุ่นน้องให้เกิดความหวาดกลัวจากนักศึกษารุ่นพี่เท่านั้น

ก็เป็นไปได้หรือจริงๆแล้วอาจจะเคยมีวิญญาณเกิดขึ้นที่นี่จริงๆแต่เมื่อเวลาผ่านไปแล้ววิญญาณเหล่านั้นต่างก็พากันไปผุดไปเกิดจนทำให้ปัจจุบันนี้นักศึกษาที่เข้ามาเรียนใหม่ใหม่ยังไม่มีใครพบเห็นวิญญาณเหล่านั้นมาหลอกหลอนอีกเลย อย่างไรก็ตามตำนานก็คือตำนานที่เล่าขานกันมาซึ่งเราไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าตำนานที่พูดถึงกันนั้นเป็นเรื่องจริงหรือเป็นแค่เพียงเรื่องแต่งเท่านั้นแต่อย่างไรก็ตามเกี่ยวกับเรื่องลึกลับเหล่านี้เราพูดที่อยู่อาศัยก็ไม่ควรจะลบหลู่

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนัน โปรดี

ตำนาน พะเนียงทองหรือทองลุก วัดป่าแก้ว ( วัดใหญ่ชัยมงคล) 

        เชื่อว่าถ้าพูดถึงวัดใหญ่ชัยมงคลทุกคนย่อมรู้จักกันเป็นอย่างดีแต่ถ้าพูดถึงวัดป่าแก้วแล้วอาจจะยังไม่มีใครรู้จักซึ่งแท้ที่จริงแล้วนั้น   วัดป่าแก้วนั้นคือชื่อเดิมของวัดใหญ่ชัยมงคล ซึ่งตั้งอยู่ตำบลไผ่ลิงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นั่นเอง ซึ่งตำนานที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นตำนานที่มีแม่ชีคนหนึ่งที่เคยอาศัยอยู่ในวัดป่าแก้วได้มีการเล่าเอาไว้ว่า คืนหนึ่งแม่ชีกับเพื่อนแม่ชีได้ออกไปซุ่มดูเพื่อจะจับขโมย จุดที่ท่านกับเพื่อนไปแอบซุ่มดูขโมยนั้นก็คือบริเวณข้างสระน้ำของวัด ซึ่งขณะนั้นเป็นช่วงเวลาตีหนึ่งกว่าๆ

เป็นช่วงเวลาที่ดึกสงัดและเงียบเหงาวังเวงเป็นอย่างมาก ซึ่งระหว่างที่ท่านกับเพื่อนกำลังเฝ้ารอส้มดูโจรอยู่ดีๆนั้นท่านและเพื่อนก็ได้ยินเสียงรถไฟดังมาแต่ไกลซึ่งท่านก็พยายามมองหาเสียงรถไฟดังกล่าวว่ามาจากที่ไหนกันแน่ ซึ่งบริเวณที่ท่านอยู่ไม่มีสถานีรถไฟสักหน่อยและยิ่งไปกว่านั้นยิ่งนานเวลาเข้าเสียงหวูดรถไฟก็ดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

และเมื่อมองหาที่มาของเสียงพบว่ามันดังมาจากที่เจดีย์องค์ใหญ่ แม่ชีจึงได้หันหลังกลับไปมองซึ่งสิ่งที่แม่ชีเห็นก็คือ ไฟพะเนียงขนาดใหญ่ทีมีการลอยขึ้นมาจากพื้นดิน มันถูกจุดขึ้นไปบนท้องฟ้า สะเก็ดไฟมันกระจายไปทั่วก่อให้เกิดแสงสว่างจ้า และสะเก็ดที่ตกลงมานี้เองที่ก่อให้เกิดเสียงเหมือนคล้ายรถไฟวิ่งผ่าน ทำให้แม่ชีและเพื่อนเกิดคามหวาดกลัว

ต่างพากันวิ่งหนีไม่คิดชีวิตเพื่อกลับที่พัก และเมื่อมาถึงที่พักพวกแม่ชีต่างก็กล่าวถึงเรื่องนี้กันว่าสิ่งที่พวกแม่ชีเห็นนั้นมันน่าจะเรียกว่า ทองลุก มันคือลูกไฟที่ปล่อยมาจากปู่โสมกวงดำซึ่งเป็นปู่โสมที่คอยเฝ้าสมบัติอยู่ที่บริเวณนั้นเป็นแน่แท้ และนอกจากเรื่องเล่าของแม่ชีท่านนี้แล้ว ยังเคยมีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับชายอีกคนหนึ่ง

ซึ่งใช้คนดังกล่าวนั้นเป็นนักปฏิบัติธรรมขั้นสูง ที่ชาวบ้านอย่างเราพากันดีกว่าซึ่งทางเดินทางมาเยี่ยมพระที่วัดป่าแก้วเนื่องจากว่าเป็นญาติกันและได้ขออยู่ต่อเพื่อปฏิบัติธรรมที่วัดป่าแก้วแห่งนี้ ซึ่งมีอยู่คืนหนึ่งที่ท่านชีปะขาวนั้นออกมานั่งสมาธิอยู่ที่หน้าเจดีย์คนเดียว และในรุ่งเช้าชีปะขาวก็ได้เดินทางไปเก็บข้าวของเพื่อจะเดินทางออกนอกบริเวณวัดสร้างความสงสัยให้กับพระลูกวัดกันเป็นจำนวนมาก

ทำให้ชีปะขาวต้องเล่าเรื่องราวให้ฟังว่าเมื่อช่วงกลางคืนที่ผ่านมาขณะที่กำลังมีการนั่งจำศีลภาวนาอยู่นั้นอยู่ๆปู่โสมเฝ้าทรัพย์ก็มาแสดงตนให้เห็น ซึ่งลักษณะของปู่โสมนั้นเป็นชายที่รูปร่างสูงใหญ่สูงเท่ากับหอระฆังเลยทีเดียวแต่งกายด้วยชุดสีดำ มองมาด้วยสายตาที่แดงก่ำและท่าทางที่มุ่งร้ายมาที่ ชีประขาวพยายามแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลไปให้แต่ปู่โสมก็ไม่ยอมรับ คอยเดินล้อมรอบบริเวณที่ชีปะขาวกำลังนั่งสมาธิจนเช้าเลยทีเดียว ทำให้ชีประขาวจำเป็นต้องรีบออกนอกวัดเพราะว่ากลัวนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  sagame1688

ตํานานผี ของไทย

เชื่อว่าหลายๆคนก็คงจะไม่เชื่อเรื่องผีแต่บางคนอาจจะเชื่อและมักจะเล่าเรื่องผีให้ฟังแต่ว่าคนคนนั้นกลับไม่ชอบเลยที่เขาชอบเล่าเรื่องผีเพราะเขาอาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องงมงายมันไม่ใช่เรื่องจริงเลยเพราะยังมีสิ่งที่คุณอาจจะคาดไม่ถึงเช่นผีเต็มไปหมดหรืออยู่ในบ้านร้างอยู่ในที่ที่คนไม่เคยอยู่และอาจจะอยู่ในสิ่งของที่เป็นของมือสองก็เป็นได้ถึงแม้ว่าหลายๆคน

จะไม่เชื่อเรื่องผีแต่มันก็ไม่ได้ปลาว่าผีไม่ได้มีอยู่จริงนะคะภาพผีสามารถสิงสถิตอยู่ที่ไหนสักแห่งที่มันตายหรือพยายามที่จะทำร้ายคนที่มันอาฆาตแค้นก็เป็นได้ดังนั้นอย่าไปทำให้ใครโกรธเราหรืออย่าไปทำให้ใครเสียใจในสิ่งที่เราทำนะคะ ณวันนี้เราก็จะมาเล่าเรื่องผีที่สิงอยู่ในบ้านร้างซึ่งเป็นเรื่องจริงและชาวบ้านแถวนั้นก็รู้กันทั่วและยังคงเป็นสิ่งที่โด่งดังในแถวนั้นว่ามีผีสิงอยู่ที่บ้านร้างไปดูกันเลยค่ะว่าจะมีกี่แห่งกัน

1.รังสิตคลอง 13 สถานที่แห่งนี้จะนำพาเราจากถนนใหญ่ให้เข้าไปในหมู่บ้านประมาณอีก 3 กิโลเมตรจะเห็นบ้านพักที่ร้างแห่งหนึ่งที่แห่งนั้นหรือไม่และถ้าไปถามคนอื่นๆ คนแถวนั้นจะบอกเหมือนกันว่า มีผู้หญิงตายอยู่ในนั้นเธอยังอยู่

ซึ่ง เธอ อยู่ในส่วนของเธอซึ่งมะขามหวานแต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปและปล่อยให้ถึงร้างเพราะเชื่อในเรื่องผีสางดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าลองดีอีกเลยแต่ก็ยังมีพวกคนที่ชอบท้าผีชอบมาที่บ้านแห่งนี้แต่ก็เจอดีกันทุกคนไม่มีใครอยากที่จะมาลองดีกับคนในบ้านแห่งนี้อีกเลย 

2.ซอยสายหยุด ที่อู่รถเมล์เก่า สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่หลายๆคนจะนำรถเมล์ที่เกิดอุบัติเหตุมาไว้ที่นี่และเชื่อว่าคนที่ตายเป็นคนที่ตายโหงหรือคนที่สภาพย่ำแย่มากพอไปถึงซึ่งจะมีผีสิงสถิตอยู่เพราะแท็กซี่ที่ผ่านทางนี้ก็จะเห็นคนมายืนโบกมือให้เขาก็เลยจะไปจอดรับแต่ก่อนที่เขาจะได้ไปถึงเขาก็ไม่เห็นคนนั้นอีกแล้วแต่บางครั้งไม่ว่าจะเป็นรถแท็กซี่หรือรถคันอื่นๆ

ก็จะเห็นคนวิ่งตัดหน้าไปหลังจากนั้นก็หายไปไหนก็ไม่รู้ทำให้เขาตกใจมากและเกือบมีอุบัติเหตุก็เลยไม่ค่อยมีใครที่จะชอบมาแถวนี้สักเท่าไหร่แต่ถ้าต้องผ่านทางแถวนี้เขาก็เลือกที่จะไม่ไปนั่นคือดีที่สุดค่ะ

 

 

สนับสนุนโดย  sagame88

ประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อธรรมจักรที่วัดธรรมามูล วรวิหารจังหวัดชัยนาท 

           สำหรับหลวงพ่อธรรมจักรนั้นเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดชัยนาทเลยก็ว่าได้ซึ่งหลวงพ่อธรรมจักรนั้นว่ากันว่าเป็นพระพุทธรูปตั้งแต่สมัยเชียงแสนตอนปลายจนถึงสุโขทัยตอนต้นหรืออาจจะมีการผสมผสานร่วมสมัยกับสมัยอยุธยาด้วยก็ได้ซึ่งไม่มีหลักฐานระบุที่แน่ชัดแน่นอนแต่ด้วยหลวงพ่อธรรมจักรนั้นเป็นพระพุทธรูปที่มีความสูงถึง 4.5 เมตร

เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ซึ่งเป็นลักษณะของพระพุทธรูปทรงปางห้ามญาติส่วนประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อธรรมจักรที่ชาวจังหวัดชัยนาทให้ความเคารพนับถือ นั้นเล่ากันสืบต่อกันมาว่าที่จริงแล้วหลวงพ่อธรรมจักรนั้นคือหนึ่งในพระพุทธรูปจำนวน 3 รูปที่ว่ามีการลอยตามกันมาในแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อครั้งสมัยอยุธยานั่นเอง

โดยตามตำนานบอกว่ามีด้วยกันทั้งหมด 3 องค์ด้วยกันแต่จริงๆแล้วเชื่อว่ามีทั้งหมด 4 องค์ซึ่งองค์แรกนั้นก็คือหลวงพ่อโสธรที่วัดโสธรวรมหาวิหารโดยประดิษฐ์ฐานอยู่ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา   ส่วนองค์ที่ 2 นั้นว่ากันว่าเป็นหลวงพ่อวัดบ้านแหลมซึ่งตอนนี้ประดิษฐานอยู่ที่วัดบ้านแหลมจังหวัดสมุทรสงคราม   และหลวงพ่อองค์ที่ 3 คือหลวงพ่อที่อยู่วัดไร่ขิงจังหวัดนครปฐม  ซึ่งหลวงพ่อองค์ที่ 4 นั้นคือหลวงพ่อธรรมจักร ที่อยู่วัดธรรมามูลวรมหาวิหารจังหวัดชัยนาทนั่นเอง

โดยตามตำนานมีการเชื่อกันว่าเมื่อมีพระพุทธรูปลอยตามน้ำมาหลวงพ่อธรรมจักรนั้นได้มีการลอยมาวนเวียนอยู่แถวบริเวณหน้าวัดธรรมามูลวรมหาวิหารซึ่งลอยติดอยู่ตรงบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาในวันนั้นได้มีพระภิกษุสงฆ์ผ่านมาเห็นเข้าจึงได้พยายามจะนำหลวงพ่อธรรมจักรขึ้นมาจากน้ำแต่ก็ไม่สามารถนำขึ้นมาได้ชาวบ้านและพระภิกษุสงฆ์ที่อยู่ในวัดธรรมนูญจึงได้มีการช่วยกันทำพิธีอัญเชิญเพื่ออัญเชิญให้หลวงพ่อมาประจำประดิษฐานอยู่ที่วัดแห่งนี้ในตอนแรกนั้นไม่ว่าจะมีการนำสายสิญจน์มาผูกกับพระพุทธรูปแล้วช่วยกันดึงยังไงก็ไม่สามารถที่จะดึงพระพุทธรูปขึ้นมาจากน้ำได้ซึ่งตลอดทั้งวันทั้งชาวบ้าน

และพระภิกษุสงฆ์อ่างต้องพยายามช่วยกันที่จะดึงพระพุทธรูปขึ้นมาจากน้ำแต่ก็ไม่สามารถที่จะดึงขึ้นมาได้จวบจนใกล้จะค่ำแล้ว ทุกคนจึงได้มีการแยกย้ายกันกลับบ้านและมีความตั้งใจกันว่าวันรุ่งขึ้นจะมาอัญเชิญพระพุทธรูปขึ้นจากน้ำกันใหม่แต่เมื่อเช้าขึ้นมาทุกคนต่างก็ต้องอัศจรรย์ใจกันเป็นอย่างมากเมื่อพบว่าองค์พระพุทธรูปที่ลอยตามน้ำ

และพยายามจะพากันขึ้นมาจากแม่น้ำนั้นปรากฏว่ามาประดิษฐานอยู่ที่บริเวณประตูทางเข้าเรียบร้อยแล้วซึ่งไม่มีใครรู้ว่าองค์พระพุทธรูปขึ้นมาจากน้ำได้อย่างไรหลังจากนั้นทั้งพระภิกษุสงฆ์และประชาชนก็พากันอัญเชิญพระพุทธรูปเข้าไปประดิษฐานอยู่ที่ภายในบริเวณวัดและมีการเรียกชื่อฐานพระพุทธรูปองค์นี้ว่าหลวงพ่อธรรมจักรนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนัน ไฮโล

สมบัติของทหารญี่ปุ่นในจังหวัดกาญจนบุรี

วันนี้เราจะมาพูดถึง สมบัติของญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่2มันมีอยู่จริงๆในจังหวัดกาญจนบุรีของประเทศไทยจริงหรือเปล่า คือ เราอยากจะบอกว่าเรื่องนี้มันจริงหรือเปล่า ซึ่งเราก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมายแต่เราได้ลองไปหาข้อมูลที่ลึกๆมาจริงๆแล้วนั้นเรื่องมันเคยถูกพูดถึงเป็นข่าวใหญ่โต เมื่อประมาณปี2530

ปลายจนถึงปัจจุบันนี้เลยเพราะตามในข้อมูลเบื้องต้นเขาได้บอกว่าในช่วงที่สงครามโลกครั้งที่2กำลังจะจบลงในที่ญี่ปุ่นกำลังจะยอมแพ้เขาได้มีสมบัติก้อนสุดท้ายเก็บเอาไว้และสมบัติก้อนสุดท้ายนั้นเขาได้นำเอาไปฝังเอาไว้ที่ใดที่หนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรีที่มันมีแม่น้ำและมีภูเขาและมีเส้นทางรถไฟที่ญี่ปุ่นสร้างเอาไว้ตัดผ่านซึ่งจากการวิเคาระห์ข้อมูลเบื้องต้น

ตรงนี้เขาได้บอกว่ามีจำนวนอยู่10กว่าถ้ำด้วยกันที่คาดว่าขุมทองนั้นมันน่าจะมีอยู่ในประเทศไทยและถ้ำที่คาดกาณ์ว่ามันจะเป็นไปได้มากที่สุดนั้นก็คือถ้ำลิเจียนั้นเอง สำหรับเรื่องของสมบัติในสมัยสงครามโลกครั้งที่2ที่เขาคาดว่ามันน่าจะอยู่ที่ใดสักที่หนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรีในประเทศไทยเรานั้นเราต้องย้อนกลับไปในครั้งสมัยของสงครามโลกครั้งที่2โดยตามข้อมูลเอาไว้เขายังได้บอกเอาไว้ว่าในเวลาขนาดนั้นประเทศไทยก็ได้ร่วมจับมือเป็นสัมพันธมิตรกับทหารญี่ปุ่น

เข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่2ญี่ปุ่นในตอนนั้นเขาก็ได้มีแนวคิดที่ที่จะสร้างทางรถไฟที่จะลำเรียงอาวุธและรวมไปถึงกำลังพลผ่านเข้ามาที่ประเทศไทยเพื่อที่จะเข้าไปบุกพม่าอินเดียในตอนนั้นทางญี่ปุ่นก็ได้ยืมเงินจำนวน4ล้านบาทไทยในตอนนั้นและก็ได้ขอกำลังพลของประเทศไทยให้ไปช่วยกันสร้างสะพานนั้นขึ้นมาให้สำเร็จและชื่อของสะพานนั้น

ก็คือสะพานสายมรณะนั้นเองโดยสะพานทางเดนรถไฟสายมรณะนี้มันได้เป็นสะพานรถไฟฟยุทธศาสตร์ที่สำคัญของญี่ปุ่นในยุคนั้นที่เขาได้คาดการณ์กันว่าถ้าพวกเขานั้นสามารถที่สร้างมันเสร็จได้พวกเขาก็สามารถที่จะบุกเข้าไปตีประเทศต่างๆกันได้อย่างง่ายดายและบุกเข้ายึดประเทศเหล่านั้นได้โดยที่เสียกำลังพลน้อยที่สุดและได้ผลประโยชน์มากที่สุดนั่นเองแต่สำหรับสะพานสายมรณะที่เราได้พูดถึงอยู่นี้เขากลับสร้างมันไม่เสร็จเพราะเนื่องจากในเวลานั้นญี่ปุ่นนั้นได้อยู่ในช่วงที่กำลังพลไกลจะหมดแล้ว

พร้อมกับเสบียงและของต่างๆซึ่งก็ได้อยู่ในช่วงที่กำลังจะแพ้สงครามนั้นเองซึ่งทางญี่ปุ่นก็เลยประกาศยกธงขาวว่าเขาของยอมแพ้ต่อสงครามในยุคนั้นแต่ก่อนที่เขาจะประกาศขอยอมแพ้ในสงครามโลกครั้งที่2พวกเขารู้ว่าเขาจะต้องชดใช้ค่าเสียหายต่างๆไม่ว่าจะเป็นค่าเสียหายในด้านของสงครามค่าเสียหายทางด้านพลเรือนและจะต้องจดสัญญาต่างๆที่ญี่ปุ่นจะต้องเสียเปรียบอย่างแน่นอนซึ่งในตอนนั้นญี่ปุ่นเขาได้มีสมบัติที่เขาได้ยึดมาจากหลายๆประเทศอยู่กองสุดท้ายมูลค่าว่า50,000ล้านดอลลาร์สหรัฐในยุคนั้นโดยเป็นทองคำแท่งทั้งหมด

 

สนับสนุนโดย  bk8

ประวัติความเป็นมาวัดมหาธาตุ

มั่นใจว่าหลายๆคนอาจเคยขับขี่รถผ่านวัดมหาธาตุหรือแม้แต่บางบุคคลบางครั้งอาจจะเคยเข้าไปบูชาขอพระพระพุทธรูปที่อยู่ข้างในวัดซึ่งปัจจุบันนี้วัดมหาธาตุจะเป็นโบราณสถานที่มีอายุเก่าแก่มากยิ่งกว่าร้อยปี ตอนแรกวัดมหาธาตุเคยเป็นวัดที่ใช้สำหรับจัดงานพิธีบูชาต่างๆของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในยุคนั้น

ถัดมาได้มีการเกิดศึกสงครามวัดมหาธาตุได้ถูกศัตรูก่อไฟเผา ทำศิลปะด้านในวัดรวมทั้งเจดีย์ต่างๆได้รับความเสียหาย เปลี่ยนเป็นซากปรักหักพัง ซึ่งตอนนี้ราษฎรที่เข้าไปในวัดมหาธาตุมักจะไปเพื่อศึกษาเล่าเรียนเกี่ยวกับที่มาที่ไปของสมัยก่อนเพราะว่าวัดที่นี้สร้างมาตั้งแต่ปี พุทธศักราช 1917

โดยถูกสร้างขึ้นโดยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 แต่ว่าพระองค์ทรงเสด็จสวรรคตซะก่อน ทำให้วัดนี้ยังสร้างไม่เสร็จ

แต่ว่าถัดมาในยุคของพระนเรศวรก็ได้ให้ช่างกลับมาสร้างวัดที่นี้ต่อจนกระทั่งเสร็จแล้วก็เปลี่ยนเป็นที่ประดิษฐานขององค์พระบรมสารีริกธาตุอีกด้วย เพราะว่าวัดที่นี้ถูกสร้างกลางใจของตัวเมือง ด้วยเหตุนี้ในยุคกรุงศรีอยุธยา พระนเรศวรก็เลยทรงใช้วัดนี้สำหรับในการจัดพระพิธีต่างๆ

สำหรับที่วัดมหาธาตุนี้นับได้ว่าเป็นวัดโบราณ

อีกวัดที่อยู่คู่กับจังหวัดอยุธยามาอย่างช้านาน ผ่านการใช้งานจากพระมหากษัตรมากมายหลายพระองค์ แล้วก็ผ่านการสู้รบมานับครั้งไม่ถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่กรุงศรีอยุธยาเสียกรุงครั้งลำดับที่สอง ประเทศพม่าได้เผาวัดหลายวัดในกรุงศรีทิ้ง

ซึ่งหนึ่งในวัดที่ถูกเผาเป็นวัดมหาธาตุ ตอนนี้ความสวยสดงดงามที่เคยมีเปลี่ยนเป็นเหลือแค่ซากที่หักพังทลายแต่ว่าก็ยังสามารถแลเห็นความงามที่เคยมีมาในอดีตกาลได้ สำหรับที่วัดมหาธาตุนี้มีสิ่งก่อสร้างจำนวนมากด้วยกัน ซึ่งก็คือ พระปรางค์ขนาดใหญ่แต่ว่าตอนนี้ไม่อาจจะหาดูได้แล้วเพราะว่าได้พังทลายไปแล้ว

เจดีย์แปดเหลี่ยม ซึ่งเป็นเจดีย์ที่สร้างแตกต่างจากวัดที่แห่งไหนมีเพียงแต่ตรงนี้ที่เดียวในโลก โดยจะมีทั้งสิ้น 4 ชั้นด้วยกัน , วิหารที่ฐานชุกชี

ซึ่งตรงนี้เคยมีประวัติเล่าว่ามีคนเคยมาแอบลักลอบขุดเพื่อหาทรัพย์สมบัติแต่ว่าไม่อาจจะเจาะจงได้ว่าโจรที่มาขุดได้อะไรไปบ้างแต่ว่าทางกรมศิลป์ได้มาขุดเพิ่ม

ซึ่งได้เจอกับของเก่าที่มีการซุกซ่อนไว้อยู่จำนวนมาก , วิหารเล็กเป็นจุดที่ผู้คนนิยมมาเที่ยวดูเนื่องจากว่าจะมีลักษณะขอรากไม้พันรอบเศียรของพระพุทธรูปเอาไว้ , พระปรางค์ขนาดกลาง แล้วก็ตำหนักพระสังฆราช สำหรับที่มีการตกแต่งไว้อย่างสวยงามในอดีตกาล สำหรับในการเข้ามาเคารพบูชาวัดมหาธาตุจะเปิดให้คนเข้าเยี่ยมชมได้ตั้งแต่เวลา 08.30 -16.30 น. โดยไม่มีค่าใช้จ่ายซึ่งตอนนี้ที่วัดที่นี้คนที่รักในศิลป์ความสวยชอบเข้ามาวาดภาพหรือมาถ่ายภาพรวมทั้งเป็นสถานที่ทรรศนะศึกษาเล่าเรียนของเหล่าเด็กนักเรียน

 

สนับสนุนโดย  โหลด bk8