เรื่องราวของประวัติศาสตร์ ที่บางท่านอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน

เรื่องราวของประวัติศาสตร์ สำหรับคนไทยที่อยู่ในสมัยอยุธยาพวกเขานั้นจะไม่มีนามสกุล โดยสมัยนั้นจะใช้แต่ชื่อเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น พาด ผิน ไม้ เป็นต้น ถ้าหากว่าต้องการที่จะระบุว่าคนที่นั้น ว่าเขาคือคนไหนกัน ซึ่งเขาจะทำการระบุโดยอาศัยท้องถิ่นที่เขาเหล่านั้นอาศัยอยู่ ยกตัวอย่าเช่น ผิน หนองอ้อ ไม้ป่ายาง

 

หรือจะเป็นการระบุเถือกเถา เหล่ากอ ยกตัวอย่างเช่น ไอ้ไม้ลูกตาสอน เป็นต้น ต่อเมื่อจะมียศหรือว่าจะมีศักดิณาเท่านั้น ถึงจะได้มีชื่อเรียกหรือว่าตำแหน่งยาวๆ ที่ไพเราะ แต่ว่ากะนั้นก็จะทำการวงเล็บที่เก่าเอาไว้ด้วยเช่นกัน ซึ่งพวกผู้คนจะได้รู้ว่าบุคคลเหล่านั้นคือใคร ยกตัวอย่างเช่น เจ้าพระยาโกษาธิบดี ( เหล็ก ) เป็นต้น

สำหรับคนไทยของเรานั้น พึ่งจะมีนามสกุลเอาไว้ใช้  เมื่อสมัยของรัชกาลที่ 6 ของเรานี่เอง โดยชาวที่เป็นชาวตะวันตกที่ได้เข้ามาเอเชียของสมัยอยุธยา ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นพวกลูกคนรอง เนื่องจากว่าตามธรรมเนียมแล้วนั้น มรดกและทรัพย์สมบัติทั้งหมดจะเป็นของลูกที่เกิดจากคนแรก หรือที่เรียกว่าลูกคนโตนั่นเอง

โดยพวกลูกคนรองทั้งหลาย จึงนิยมที่จะออกมาเสี่ยงโชคกัน มากกว่าที่พวกเขาจะทนจมปรักอยู่ที่บ้าน ส่วนทางด้านชาวญี่ปุ่นที่เขามาในสมัยอยุธยา เป็นโรนินชาวคริสต์  ที่ได้หนีการกวาดล้างของคนต่างศาสนา บนแผ่นดินของแผ่นดินแม่ นอกจากนั้นยังได้เข้ามาเป็นกองกำลังอาสา เช่นเดียวกับกองกำลังอาสาอื่น ๆ อีกมากมาย ในอยุธยา

ดังนั้นเวลาที่มีสงคราม ทหารในกองทัพของทุก ๆ ที่ จึงมีลักษณะเป็นกองกำลังผสม คือมีทั้ง คนไทย มีกองอาสามอณ เป็นแนวหน้าทะลวงฟัน โดยจะมีคนแม่นปืนชาติโปรตุเกศ และยังมีกองทหารลาว ทหารเขมร ล้านนา แขกเปอร์เซีย ญี่ปุ่น และก็อีกมากมายที่ไม่ได้เอ๋ย ผสมปนเปย์กันอยู่ในทุก ๆ กองทัพ 

ในยุครุ่งเรืองกรุงศรีอยุธยามีสภาพ เป็นเมืองท่านานาชาติ ที่มีผู้คนที่มาจากหลากหลายเชื้อชาติอาศัยกันอยู่ โดยจะมีตั้งแต่ คนไทย มอณ พม่า เขมร จีน มาลายู ญี่ปุ่น เป็นต้น จดหมายเหตุของลาลูแบร์ ได้ระบุ ว่าอยุธยาในช่วงที่เขาเข้ามานั้น มีผู้คนอบู่กับปะปนกันมากกว่า 40 ชาติ นอกจากนั้นจำนวณประชากรยังมีมากกว่า 2 แสน คน

 คนในอยุธยาใช้ภาษาโปรตุกีสเป็นภาษากลาง ในการติดต่อกับฝรั่งชาติตะวันตก เรื่องนี้บาทหลวงเดเชอซี ได้ทำการบันทึกเอาไว้ว่า ระหว่างลงเรือเดินทางรอนแรมมาที่อยุธยานั้น บาทหลวงและชาวคณะ ต้องเรียนภาษาโปรตุกีสนานถึงแปดเดือน เผื่อจะได้นำไปใช้สื่อสารกับชาวอยุธยาโดยภาษาโปรตุกีสเป็นภาษากลางที่เอาไว้ใช้ในการสื่อสาร ระหว่างชาวอยุธยากับชาวฝรั่ง เรื่อยมาจนถึงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ถึงได้เป็นมาเป็นภาษาอังกฤษ

 

สนับสนุนโดย.    หวยออนไลน์บาทละ 1000