ตำนานดอยนางนอนและดอยตุงตรงบริเวณถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน 

 

          ตำนานดอยนางนอน หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ของถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ก็มีเรื่องของตำนานของถ้ำแห่นี้เล่ากันต่อมาเลื่อยๆ ซึ่งในตำนานได้ที่จะมาพูดถึงกันในนี้ก็คือตำนานของเจ้าหญิงพระองค์หนึ่งที่เธอหลงรักกับชายเลี้ยงม้าจนทำให้เกิดตำนานแห่งนี้เกิดขึ้น   โดยเจ้าหญิงองค์ดังกล่าวนั้นเป็นเจ้าหญิงที่อยู่การปกครองภายใต้เมืองเชียงรุ้งสิบสองปันนา   

           ในขณะที่เจ้าหญิงกำลังเริ่มเติบโตเป็นสาวนั้นก็ได้พบกับชายหนุ่มที่มีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาแต่เป็นเพียงแค่คนเลี้ยงม้าในพระราชวังเท่านั้นซึ่งเจ้าหญิงนั้นได้ส่งมาขี่มาเล่นเป็นประจำทำให้รู้จักกับชายหนุ่มคนดังกล่าวและทั้งคู่ก็เกิดความรักใคร่กันและในที่สุดก็มีความสัมพันธ์กันจนเจ้าหญิงนั้นตั้งท้องขึ้นมาเมื่อรู้ว่าตนเองท้องก็เกิดความกลัวว่าพระบิดานั้นจะไม่พอใจจึงได้นัดกันเพื่อจะทำการหนีออกจากพระราชวังนั่นเอง

        ในระหว่างที่เจ้าหญิงกับชายคนรักได้หนีออกมานั้นก็มีการหนีมาตามแม่น้ำโขงซึ่งในขณะนั้นเจ้าหญิงท้องแก่หลายเดือนแล้วจึงทำให้การเดินทางนั้นค่อนข้างช้าเพราะว่าไม่สามารถที่จะเดินทางได้เร็วได้ระหว่างการหลบหนีนั้นชายคนรักของเจ้าหญิงก็จะเป็นผู้หาอาหารมาให้เจ้าหญิงกินและอยู่มาวันหนึ่งขณะที่ทั้งคู่นั้นได้หลบอาศัยอยู่ในถ้ำใช่คนรักของเจ้าหญิงได้ออกไปหาอาหารแต่หลังจากออกไปแล้วใช้คนรักก็หายไปเลยและไม่สามารถติดต่อกับเจ้าหญิงได้

        ทางด้านเจ้าหญิงนั้นก็หลบอยู่ภายในถ้ำแต่ท้ายที่สุดแล้วบรรดาทหารที่พระราชบิดาของเจ้าหญิงส่งมาให้ตามจับกุมตัวเจ้าหญิงนั้นก็ตามมาจนเจอและเจ้าหญิงกินได้รู้ว่าคนรักของเจ้าหญิงนั้นถูกฆ่าตายเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยทหารที่ถูกส่งมานั่นเองเมื่อเจ้าหญิงรู้ว่าใช่คนรักนั้นเสียชีวิตแล้วเจ้าหญิงก็เสียใจเป็นอย่างมากเธอจึงได้ฆ่าตัวตายด้วยการที่เอาปิ่นปักผมที่อยู่บนหัวของเธอนั้นแทงตัวเองหลังจากนั้นเลือดก็ไหลออกจากร่างกายของเจ้าหญิงซึ่งเรื่องดังกล่าวนั้นกลายเป็นแม่น้ำที่ชื่อว่าแม่สาย    

          ส่วนร่างกายของเจ้าหญิงที่ล้มลงและนอนเสียชีวิตนั้นเป็นลักษณะการนอนที่หันหัวไปทางทิศใต้และขาชี้ไปทางทิศเหนือดังนั้นหลังจากที่เสียชีวิตร่างกายของเจ้าหญิงก็กลายเป็นหินโดยบริเวณจุดนี้ชาวบ้านจึงเรียกที่นี่กันว่าดอยนางนอน  และตรงบริเวณท้องของเจ้าหญิงซึ่งมีการตั้งท้องอยู่นั้นจะนูนขึ้นมาซึ่งตรงบริเวณที่นอนนี้กลายเป็นภูเขาที่ชาวบ้านเรียกกันว่าโดยตรงนั่นเอง

          ซึ่งตำนานที่มีการพูดถึงนี้เป็นตำนานของดอยต่างๆซึ่งเป็นสถานที่จริงในปัจจุบันนี้นั่นเอง 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  huaydee