ปริศนาศาสนาโบราณ

เมื่อในปี2013นักโบราณคดีก็ได้พบสิ่งที่ประดิษฐ์ที่ได้อยู่ใต้ทะเลสาบติติกากา ซึ่งมันได้ตั้งอยู่ในพื้นที่บริเวณทางฝั่งชายแดนของโบลิเวีย ซึ่งวัตถุโบราณที่ได้มีการค้นพบนั้น มันได้แสดงถึงศาสนายุคก่อนอาณานิคม โดยทีมเหล่านักโบราณคดีที่ได้พบเหรียญทองสองเหรียญที่มันได้แสดงขึ้นเทพที่มันได้มีรังสีที่เปล่งออกมาจากด้านใบหน้าและแผ่นที่ดูเป็นโลหะที่มันได้มีลาดลายที่เป็นสัตว์ลูกผสมกัน

ในระหว่างเสือพูม่าผสมเข้ากับลามาอีกทั้งก็ยังได้มีเศษซากของกระดูกที่เป็นของลูกลามาทั้งสามตัวที่มันได้ถูกบูชายัญเอาไว้ทั้งนี้ก็ยังได้รวมไปถึงเปลือกหอยที่เป็นธรรมดาอยู่อีกหนึ่งชิ้นและก็ยังมีเปลือกหอยอยู่อีกหลายชนิดที่มันได้มีหนามอีกห้าชิ้นจากนั้นในการค้นพบครั้งล่าสุดนี้มันก็ยังได้มีความหมายที่มัน

เนื่องมาจากพื้นที่ดังกล่าวมันได้อยู่ห่างไปจากที่อยู่อาศัยของหอยในบางชนิดที่มันได้มีหนามออกไปมากกว่า1,900กม. ซึ่งมันก็ยังได้บ่งบอกว่าผู้คนในภูมิภาคนี้ก็ยังได้มีการทำการค้าขายแลกเปลี่ยนกับคนที่อยู่นอกพื้นที่ นอกจากนี้ การที่ได้ค้นพบสิ่งของที่มันมีค่าในช่วงยุคสมัยนั้นมันก็ยังได้เป็นเครื่องที่บ่งชี้อีกว่า คนที่อยู่ในกลุ่มคนพื้นที่นี้ได้มีความภักดีต่อศาสนาของพวกเขา

เป็นอย่างมาก โดยพวกเขาก็ยังได้กำจัดสิ่งของที่มีค่าทิ้งไปจากนั้นด้าน นักมานุษยวิทยา โฮเซ เอ็ม. คาปรีเลส จากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียสเตท และผู้ที่ได้ร่วมเขียนรายงานที่ได้เปิดเผยในการค้นพบในครั้งนี้ โดยยังได้กล่าวถึงความสำคัญของศาสนา สำหรับการก่อตั้งสังคมขึ้นมาใหม่ทั้งนี้พวกเขาก็ยังได้กล่าวอีกว่า “เทพของผู้คนเหล่านี้ที่เขาได้สร้างขึ้นมานั้น

มันก็จะได้กลายมาเป็นสถาบันที่จะคอยควบคุมพฤติกรรมของผู้คน” จากนั้นนักมานุษยวิทยาและนักโบราณคดีพวกเขาต่างก็ได้เชื่อกันว่าศาสนาใหม่ที่ไม่ได้มีการปรากฏชื่อนี้ซึ่งมันก็ยังได้มีบทบาทที่สำคัญในการเพิ่มจำนวนเหล่าประชากรของชาว ตีวานากุ เมื่อในปี2019 พวกเขาก็ได้ทำการตีพิมพ์ข้อมูลลงในวารสารสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ

ที่ได้มีการกล่าวถึงรายละเอียดการค้นพบในปี2013 พอล โกลด์ตีน นักโบราณคดี จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย แซนดีเอโก ได้กล่าวว่า “ตีวานากุ เป็นอาณษจักรของชนพื้นเมืองอเมริกันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ชาวอเมริกันจำนวนมากไม่เคยได้ยินมากก่อน”นักประวัติศาสตร์เชื่อว่า ตีวานากุ ได้เจริญเติบโตและเฟื่องฟูจนอาณาจักรของพวกเขาล่มสลายลงในปี ค.ศ.1,000

โดยอาณาจักรนี้ได้ครอบคุมบางส่วนของโบลิเวีย ชิลี และ เปรู ซึ่งยิ่งใหญ่ที่สุด อีกทั้งชาว ตีวานากุ ไม่ทิ้งร่องรอยของทางการทหารที่สำคัญใดๆไว้เลย จึงเชื่อว่า พวกเขาอาจจะมุ่งเน้นไปที่ศาสนา และการทำการค้ามากกว่าลักฐานทางโบราณคดีที่เกี่ยวกับความเชื่อของพวกเขาได้รับการเก็บรวบรวมมานานหลายปีแต่สำหรับในเรื่องลายละเอียดในเรื่องของศาสนาและวิธีที่ทำให้เขาพิชิตพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดขนาดนั้นได้ยังเป็นปริศนาจนมาถึงในปัจจุบัน

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  เว็บพนัน แจกเครดิตฟรี ไม่ต้องฝาก